อีกด้านก็มีองค์พระธาตุเหมือนกัน ท้องฟ้าด้านนี้ไม่ค่อยแจ่มใส แต่ก็กลมกลืนกับตัวพระธาตุยิ่งนัก
ซูมดูใกล้ๆ จะเห็นชัดเจนเลย (สายไฟ) อิอิ แต่ว่าคือพระธาตุอะไรนะ เดี๋ยวค่อยไปดู
หันกลับมาถ่ายทางนี้อีกรูป
จากนั้นก็นมัสการหลวงพ่อโตก่อน ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพครับ
ทีนี้ย่องขึ้นมาด้านบน.. แล้วก็หลบมุม.. ซุ่มอยู่ตรงพุ่มไม้.. แอบถ่ายพระธาตุอีก 1 แช๊ะ
ภาพที่เห็นนี้ด้านในจะมีพระนอนอยู่ครับ องค์ใหญ่มาก ไม่มีภาพองค์พระให้ดูนะ ผมเก็บไว้ดูคนเดียว อิอิ
เขาว่าใครได้ลอดท้องช้างจะเป็นศิริมงคลมาก อย่าลืมแวะมาลอดนะคร้าบ
ด้านหนึ่งของพระอุโบสถ ที่บอกว่า"ด้านหนึ่ง" เพราะชักจะงงๆว่าด้านไหนคือด้านหน้า 555+
ถ้าไม่เชื่อผมก็ลองดูอีกด้านสิ คล้ายกันเลย (แต่ผมก็แยกออกอยู่นะ อย่าพึ่งด่าผมโง่)
นี่เป็นศาลาข้างๆ ซึ่งก็สวยงามอีกตามเคย
ด้านหน้าของพระอุโบสถครับ ดูบรรยากาศสิ น่าไปมาก
นี่คือวัดสุชาดารามครับ อยู่คู่กับพระธาตุสีขาวในภาพด้านบนครับ
ได้เวลาออกเดินทางไปยังอีก 1 ที่แล้วครับ
เดินมาชมบรรยากาศแถวนั้นยามเย็นซะหน่อย จะบอกให้ว่าน้ำใสมากๆ เห็นปลากำลังเต้นแอโรบิคอยู่เลยครับ
แน่นอนว่าสิ่งที่อยู่ติดกับสะพานก็คือกาดกองต้านั่นเอง ดีใจมากครับ จะได้เดินกาดแล้ว
เขากำลังจะเริ่มขายของกัน ผมก็มาเดินก่อนเลยครับ เพราะผมไม่ได้ตั้งใจมาซื้อ 555+
สิ่งที่ชอบมากก็คือสภาพแวดล้อมรอบๆครับ ถนนคนเดินต้องอยู่ในเมืองโบราณถึงจะเหมาะ
หาดูได้ยากนะครับ ถนนคนเดินในที่แบบนี้
แวะตรงนี้หน่อยก็ดีนะ
คือร้านขายลูกชิ้น คนต่อคิวเยอะจริงๆ เสียดายที่ผมไม่ได้ซื้อ
ไข่ปิ้งก็อร่อยมากนะ แต่เสียดายที่ไม่ได้ซื้อ 555+
นี่บ้านผมเรียกว่า "ปุ๊กข้าว" ก็คือกระปุกที่เอาไว้ใส่ข้าวเหนียวนั่นเอง แต่ตอนผมเป็นเด็กผมก็ทำพังไปหลายใบครับ ผมเอาด้วงกว่างไปใส่ครับ ขาดหมด
เดินออกมาถ่ายสะพานอีกที เพราะมันสวยครับ
ณ ตอนนี้ก็เวลาจะ 18.00 แล้ว สำหรับใครที่จะเดินทางกลับก็ซื้อตั๋วที่สถานีขนส่งได้เลยครับ แต่ผมนะยังไม่อยากกลับหรอก ไหนๆก็ไหนๆลองหาอะไรเย็นๆจิบให้ชื่นใจแล้วค่อยกลับจะดีกว่า ต้องลองดูนะครับ
สุดท้ายนี้ เชื่อไหมครับการเดินทางจะทำให้เราโตขึ้น ไม่ต้องเชื่อผมหรอกครับ เก็บไว้คิดหลังจากที่คุณได้ออกเดินทางไปแล้ว คุณจะพบคำตอบ
สำหรับวันนี้ ม้าไม่ได้ไปก่อน แพะไม่ได้ไปก่อน แกะก็ยังไม่ได้ไปก่อน ......ลาไปก่อน